Sunday, April 22, 2012

เซน คือ อะไร?

เซน คือ... "อย่ายึดเอาข้อสรุปใดเป็นคาตอบ" เซน คือ อะไร? สงสัยกันมาก สงสัยกันมานาน อ่านมาก็มาก ฟังมาก็มาก แต่เล้วเซน คืออะไร?

จะศึกษาเซนจากประวัติศาสตร์ จากรากศัพท์ นั่นก็ไม่ใช่เซน เซนคือปรัชญาหรือ? ก็ไม่ใช่อีก ถ้าจะให้เรียกเห็นจะเรียกว่าเซนคือธรรมนั่นแหละ พอฟังได้หน่อย เข้าถึงเซน คือเข้าถึงธรรม แล้วขยายความต่อไปว่าธรรมนี้รวมทุกสิ่ง ทั้งนิพพาน ฯลฯ อะไรก็ตามใจ

สิ่งที่พวกเซนเขามุ่งหมายกันนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วๆ ไปที่บางคนเข้าใจ เพราะพวกเขาไม่สนใจเรื่องนรก-สวรรค์อะไรเลย แม้ว่าจะจัดว่าเป็นฝักใฝ่ทางศาสนาก็ตาม หากแต่เขามุ่งไปให้ไกลกว่านั้นมากนัก คือ เน้นไปที่ความหลุดพ้น การตรัสรู้ วิมุตติ การบรรลุธรรม ซึ่งดูให้ดี จะเห็นความแตกต่างไปจากแนวคติมหายานโดยทั่วไป ที่มักจะพากันเน้นที่การมุ่งเนาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นวัฏสงสารให้ได้ก่อน แล้วตัวเองจึงค่อยบรรลุธรรม ดังนั้น ในแง่หนึ่ง เซน จึงคล้ายคลึกกับทางเถรวาทมาก และในข้อวัตรปฏิบัติบางประการ เซนก็ดูๆ ไปจะละม้ายกับเถรวาทสานักวัดป่าที่เน้นวิปัสสนา เป็นอย่างมากเช่นกัน

ท่านโตสุยเป็นอาจารย์เซนผู้หนึ่ง ซึ่งได้ละทิ้งแบบแผนการใช้ชีวิตในวัดออกไปอาศัยอยู่ร่วมกับคนขอทานทั้งหลายใต้สะพานแห่งหนึ่ง เมื่อท่านชราภาพมากขึ้น เพื่อนของท่านคนหนึ่งก็ช่วยขอทานอาหารมาให้ท่านใช้ยังชีพ และแสดงให้ท่านเห็นถึงวิธีการรวบรวมเอาข้าวมาทาเป็นน้าส้ม (ไว้รับประทาน) และท่านโตสุยก็ทาเช่นนี้ไปจนสิ้งอายุขัยของท่าน

ในขณะที่ท่านโตสุยกาลังทาน้าส้มอยู่นั้น คนขอทานคนหนึ่งก็นาเอารูปของพระพุทธเจ้ามาให้ท่านใบหนึ่ง (รูปพระพุทธเจ้าอมิตาภะซึ่งฝ่ายมหายานถือว่า พระพุทธเจ้าองค์นี้อยู่ในสวรรค์ คอยช่วยเหลือมนุษย์ที่ท่องบนพระนามของพระองค์บ่อยๆ ให้ได้ขึ้นสวรรค์และจักได้นิพพานในเมืองสวรรค์นั้น) ท่านโตสุยได้แขวนภาพนั้นไว้ข้างฝาผนังกระท่อมของท่าน และเขียนไว้ที่ข้างๆ ภาพว่า

"นายอมิตาภะ พุทธะ ห้องนี้ค่อยข้างแคบอยู่สักหน่อย ฉันยังคงปล่อยให้ท่านเป็นสิ่งที่ไม่จีรังอยู่ต่อไปอีกได้ แต่อย่าได้คิดว่าฉันจะขอร้องให้ท่านช่วยเหลือให้ฉันได้ไปเกิดในสวรรค์ของท่านเลย"

สิ่งที่พวกเซนเน้นมากก็เช่นเดียวกับคาสอนพุทธศาสนาสายอื่นๆ โดยทั่วๆ ไป คือเรื่องอนิจจัง เรื่องอนัตตา ความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ความว่าง ฯลฯ

ก่อนที่ท่านนินากาวะจะจากไป (ตาย) อาจารย์เซนที่ชื่ออิ๊กคิวได้แวะมาเยี่ยม "จะให้ผมนาทางให้ไหม?" อิ๊กคิวถาม นินากาวะตอบขึ้น "ฉันมาที่นี่แต่เพียงลาพังคนเดียว และฉันก็จะไปคนเดียว คุณจะช่วยอะไรฉันได้?" อิ๊กคิวตอบว่า "ถ้าคุณคิดว่าคุณมาและไปจริงๆ แล้ว นั่นเป็นโมหะ (ความหลงผิด) ของท่านละ ขอให้ผมได้แสดงทางซึ่งไม่มีการมาและไม่มีการไปให้ท่านดูสักหน่อยเถิด"

ด้วยคาพูดเพียงเท่านั้น อิ๊กคิวก็ได้ช่วยเปิดเผยเส้นทาง (แห่งธรรม) ให้แก่นินากาวะเรียบร้อยแล้ว และนินากาวะก็ยิ้มแล้วจากไปอย่างสงบ

สุภูติ (สุ-ภู-ติ) เป็นศิษย์ของพระพุทธะรูปหนึ่งที่มีความสามารถเข้าใจในพลังอานาจของความว่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันก็เป็นแนวทัศนะที่ว่าไม่ได้มีอะไรปรากฏอยู่เลย นอกจากความสัมพันธ์ของอัตวิสัยและภาววิสัยเท่านั้น

วันหนึ่ง ท่านสุภูติได้นั่งอยู่ภายใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ในอารมณ์แห่งความว่างอันสูงเลิศ และดอกไม้ก็ได้หล่นโปรยปรายลงมารอบๆ กายของท่าน "พวกเรากาลังสรรเสริญท่านในการที่ท่านเทศนาเรื่องความว่างให้แก่พวกเรา" ปวงเทพทั้งหลายกระซิบแก่ท่านดังนี้ "แต่อาตมาภาพยังไม่ได้พูดเรื่องความว่างอะไรเลย" ท่านสุภูติกล่าว "ท่านไม่ได้พูดเรื่องความว่าง, และพวกเราก้ไม่ได้ยินเรื่องความว่าง" ปวงเทพกล่าวตอบ "นี่แหละเป็นความว่างที่แท้ละ" แล้วมวลดอกไม้ก็โปรยปรายลงมาที่ท่านสุภูติดุจดังสายฝน
เซน ตืออะไร ขอให้ขบกันต่อไป อย่ายึดเอาข้อสรุปใดเป็นคาตอบ จงแสวงหาไปอย่าหยุด จนกว่าจะพบ "เซน" เข้าด้วยตนเองอย่างตรงๆ

จาก http://www.geocities.com/knowable2001/zen028.htm

No comments:

Post a Comment